วันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ทัวร์เกาหลี สไตล์เกาเหลา

บางครั้งเราต้องการไปเที่ยวแบบถูกกว่าไปเอง และความสะดวกสบาย ไม่ต้องมานั่งหาข้อมูล ฯลฯ ทำให้เราก็อดไม่ได้ที่จะไปกับทัวร์ อย่างประเทศสุดฮิตอย่างเกาหลีเป็นต้น

มีข้อแนะนำมาเตือนใจสำหรับคนที่จะไปกับทัวร์เกาหลี ดังนี้
1. ไม่ควรตัดสินใจกระชั้นชิด เพราะจะทำให้สถานการณ์บีบบังคับ ให้เราเลือกทัวร์อะไรก็ได้ เพียงเพราะอยากไป แล้วก็มานั่งลุ้นจนวันสุดท้ายก่อนจะขึ้นเครื่องแบบเรา ว่าจะโดนหลอกมั้ยเนี่ย
บ่องตง เครียดกว่าไปเองเยอะ เพราะกลัวจะโดนหลอก ช่วงนั้นทัวร์เกาหลีมีข่าวเยอะด้วย ไหนจะข่าวสายการบินอีก
2. ตรวจเช็คข้อมูลบ.ทัวร์ ที่สำนักทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ เว็บไซต์ http://www.tourismcentre.go.th/ คลิกที่ตรวจสอบรายชื่อ ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ เพื่อเช็คประวัติข้อมูลของบ. และโทรเช็คที่เบอร์ 02-401-1111 เพื่อตรวจสอบว่าบ.ทัวร์นั้นๆ เคยมีประวัติเสื่อมเสีย โดนลูกทัวร์ร้องเรียนบ้างรึเปล่า
3. ทางที่ดี ถ้าจะไปเกาหลีกับทัวร์ ให้เลือกบ.ทัวร์ที่มีชื่อเสียงดังๆ แพงหน่อย แต่สบายใจกว่ากันเยอะ แต่ล่าสุดอ่านเจอในพันทิพ ทัวร์แพง ก็ใช่ว่าดีเสมอไป เวงกำ
4. ถ้าเป็นไปได้ ให้เราไปเป็นกรุ๊ปใหญ่ คือชวนเพื่อน ญาติพี่น้อง ไปในกรุ๊ปเดียวกันเลย หลายๆ คน น่าจะได้รับการดูแลจากไกด์ได้ดีกว่า จะได้ไม่เกาหลากับไกด์แบบเรา 555
5. จุดสำคัญที่พลิกหน้ามือเป็นหลังมือ คือ ไกด์เกาหลี (ทัวร์ไทยเขาจะจ้างทัวร์ของบ.ที่เกาหลีพาเที่ยวอีกที ดูจากกระดาษที่เขาให้รายละเอียดตอนเจอกันครั้งแรก) จะหนุกไม่หนุก ประทับใจ ไม่ประทับใจ ก็อยู่ที่ไกด์เกาหลีนี่แหละ โชคดีเราได้ไกด์เกาหลี(แต่จริงๆ เป็นคนไทยนะ) เขาแช่มชองมีประสบการณ์ จัด ปรับเปลี่ยนโปรแกรมให้พอดีกับเวลา แถมขากลับยังช่วยไกด์ไทยมือใหม่ จัดที่นั่งบนเครื่องให้ด้วย เลยได้ที่นั่งลงตัว ไม่ต้องไปตกลงกันบนเครื่องอีกที เสียอย่างเดียว เจ๊ โคตรดุ เลยเกาเหลากันนิดหน่อย แต่ก็เข้าใจ เพราะเจ๊ต้องคอยควบคุมให้ตรงเวลา (แต่คนอื่นในกรุ๊ปก็สายเสมอ สายกว่าเราตลอด ไม่เห็นว่าเลย -*- เราสายแค่ครั้งเดียวเอง ขอบ่นหน่อย)

ข้อสุดท้าย.... ถ้าเป็นไปได้ ไปเองดีกว่า หนุกกว่าเยอะ อิสระเสรี ไม่ต้องรีบ

ข้อเปรียบเทียบแบบไปกับทัวร์ กับแบบไปเอง
ไปกับทัวร์ ไปเอง
ก่อนวันเดินทาง นอนไม่หลับ ไม่ใช่เพราะตื่นเต้นนะ แต่เพราะกลัวโดนโกง
โดยเฉพาะถ้าเลือกบ.ทัวร์ ที่ไม่ดัง ยิ่งทัวร์ไปเกาหลี 
มีข่าวโกงกันบ่อยๆ เพราะคนนิยมไปกันเยอะ
ความเสียวก็มากหน่อย เรียกได้ว่าลุ้นจนกว่าจะได้
check in ขึ้นเครื่องกันเลยทีเดียว 
(ก็จะไม่ให้เสียวได้ยังไง บ.ทัวร์ขอไปแต่สำเนาพาสปอร์ต
ส่วนใบ confirm ตั๋วเครื่องบินก็ไม่มีให้ดูจนกว่าจะถึงวันบินนู่น)
เตรียมตัวจนเหนื่อย แต่มั่นใจได้เต็มที่ ว่าได้ไปชัวร์ เพราะตั๋วเครื่องบินก็จองเอง ทุกอย่างเราจัดการเองหมด
วันออกเดินทาง @
สนามบินสุวรรณภูมิ
พอเจอป้ายของบ.ทัวร์ที่เราจองไว้ ดีจายยยมาก 
ในใจน้ำตาไหลพราก จะได้ไปเกาหลีแล้ว
ไม่โดนหลอกแล้ว ไชโยๆ
ชิวๆ
Check in @
สนามบินสุวรรณภูมิ
พอถึงเวลาเช็คอิน ไกด์ของบ.ทัวร์ที่เราจองซึ่งเป็นคนไทย
(ต่อไปขอเรียก ไกด์ไทยมือใหม่)
ก็เรียกมาเข้าแถวอย่างยาว เครื่องบินที่ไปเป็นแบบเช่าเหมาลำ
แล้วเขาก็ให้คนกลุ่มใหญ่ที่มาด้วยกันมี priority สูงกว่าตามเคย
ส่วนเราคนกลุ่มน้อยก็รอกันไป แล้วไกด์ไทยมือใหม่
ก็ไม่มีประสบการณ์เลย จัดที่นั่งไม่ลงตัว
ต้องขึ้นไปตกลงกันเองเรื่องที่นั่งบนเครื่องบิน
เพราะเขาจัดที่นั่งชนกัน เฮ้อ ปวดตับ
ไปถึงก็เช็คอินได้เลย ไม่ต้องเอากระเป๋ามาต่อแถวรอคนอื่นๆ ในทัวร์ มีสิทธิ์ได้ที่นั่งติดกันมากกว่า
เมื่อถึง @ สนามบินอินชอน ไกด์ไทยมือใหม่ พาเดินไปตม. ก่อนจะถึงเห็นกรุ๊ปทัวร์อื่น
กรอกไรกันใหญ่เลย กรุ๊ปเราก็งงงวย ว่าต้องกรอกเอกสารนั้นมั้ย
ไกด์ไทยมือใหม่ ก็ไม่รู้เรื่องก็คิดว่าต้องกรอกด้วยมั้ง
เลยพาลูกทัวร์ของตัวเองไปกรอก ปรากฎกรุ๊ปไทยอีกบ.นึงมา
ถึงบอกลูกทัวร์ของตัวเองว่าคนไทยไม่ต้องกรอกๆ
พวกเราก็แอบฟังและทำตามกรุ๊ปทัวร์บ.อื่น ไป คือไม่ต้องกรอก
เฮ้อออ อีกรอบ
ระหว่างเดินทางไปตม. ช่างไกลเหลือเกิน ไกด์ไทยมือใหม่ก็งกๆ เงิ่นๆ นำทางไปไม่ถูก เดินกันไม่เป็นกรุ๊ป เพราะเขาดันลืมธง ไว้ในกระเป๋าเดินทาง -___-"" ซะงั้น ก็เดินๆ หลงกรุ๊ปกันบ้าง เพราะยังจำหน้าคนในกรุ๊ปไม่ค่อยได้ ไกด์ไทยมือใหม่ดูเหมือนไม่เคยเดินทางออกนอกประเทศเลย เพราะดูเขางงๆ ไปไม่ถูก ไม่รู้ไปทางไหน ขนาดมีไกด์สองคนนะ แต่ดันมือใหม่ทั้งคู่เลย เยี่ยม!! แล้วดันทำเนียนว่าเคยมาอีก แหม.. คนเคยมาเขาไม่พาหลงอย่างนี้หรอก
ตูเดินไปตม. เอง ป่านนี้ถึงนานละ
เมื่อถึง @ สนามบินอินชอน ภาค 2 สรุปกว่าจะผ่านตม. ก็มาเจอด่านรับกระเป๋าอีก
กว่าไกด์ท่านจะหาไลน์ กระเป๋าเจอ ก็ late ไปอีก
กระเป๋าวนไปหลายรอบละ พอออกมาได้
เจอไกด์ท้องถิ่นชาวเกาหลี ก็ต้องรีบๆ
เพราะเราใช้เวลาในสนามบินไปนานมากกก
ถ้าไปเอง คงออกจากสนามบินนานละ นอกจากไกด์ไทยมือใหม่นี้จะเป็นภาระกับลูกทัวร์แล้ว ยังเพราะทัวร์เกาหลีแบบนี้ บินไฟล์ดึก ถึงเช้า ต้องล้างหน้าแปรงฟันในสนามบิน ไปกันกรุ๊ปใหญ่จะเป็นยังไงก็ลองคิดดู 
ที่พัก โรงแรมอย่างดี บางทีฟลุ้กอาจได้ 5 ดาว ยิ่งหนาวๆ
อย่างนี้มีฮีตเตอร์ให้ด้วย อุ่นสุดๆ
Guest house ดีที่สุดเท่าที่หาได้ ไม่มีฮีตเตอร์ มีแต่ผ้ารองเตียงแบบไฟฟ้า (*.*) ที่จีนนะ ที่เกาหลีไม่รู้อะ
อาหารการกิน ถ้าเทียบกับไปเอง คงไม่ได้กินอาหารดีๆ อย่างนี้ทุกมื้อ
ร้านที่ทัวร์พาไปกินส่วนมาก อร่อยดี
กินดีบ้าง บางมื้อ แต่ไม่ต้องรีบ
ถ่ายรูป แทบจะไม่มีเวลาถ่ายรูป ต้องรีบเดินตามต้อยๆ
ไปช้าเดี๋ยวจะโดนไกด์ด่ามิใช่น้อย
ค่อยๆ เอ้อระเหย ถ่ายรูปตลอดเวลา เก็บบรรยากาศ ชิวๆ

วันเสาร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2554

ที่พัก พักที่ .... @ Lijiang



เมื่อมาถึงลี่เจียงกู่เฉิง สิ่งจำเป็นที่สุดอย่างหนึ่ง และอย่างแรกที่มาถึง
คือ แผนที่เมืองเก่าค่ะ ยิ่งจะพักในเมืองเก่าด้วยแล้ว
ควรมีพกไว้เป็นอย่างยิ่ง
ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ควรติดต่อเจ้าหน้าที่ที่เราพัก
แล้วโทรนัดให้เขามารับ จะสะดวก และประหยัดเวลากว่าเดินหาเองนะคะ
แล้วที่พักบางแห่ง จนท.ก็สามารถพูดอังกฤษได้
เมื่อถึงที่พักแล้วค่อยขอแผนที่ หรือนามบัตรที่พักเก็บไว้
แต่ยังไงก็ตาม จะมีคนคอยเดินขายแผนที่แผ่นใหญ่มาก
สามารถซื้อเก็บไว้เป็นที่ระลึกก็ได้ค่ะ เป็นแผนที่เมืองเก่าลี่เจียง เมืองเก่าซูเหอ ฯลฯ
แต่ถ้าจะเอามาใช้ดูจริงๆ จะงงๆ หน่อย และราคาก็สามารถต่อรองได้ค่ะ

ตัวอย่างที่พักใจกลางลี่เจียงกู่เฉิง
มีซอยนึงที่มีที่พักให้เลือกพอประมาณ
เป็นซอยหนึ่งที่แยกออกไปจากจตุรัสใจกลางเมือง
เป็นซอยที่เดินขึ้นไปชมวิวหลังคาเมืองเก่าทั้งเมืองได้
และถ้าเดินขึ้นไปเรื่อยๆ ก็จะไปถึง ว่านกู่โหลว (รู้สึกจะเสียค่าเข้าด้วย)
ตลอดซอยนี้จะมีร้านค้าให้นั่งกินลม ชมวิว แต่ต้องสั่งน้ำ หรืออาหารเป็นพิธี 
จะไปนั่งกินลมเปล่าๆ เค้าไม่ให้เข้านะคะ 
พวกเราก็เลยสั่งน้ำแก้วสองแก้ว แต่นั่งกัน 4 คน ^___^"
นอกเรื่องอีกแล้ว กลับมาที่...

ที่พักแถวนี้ น่าจะเหมาะกับคนที่ชอบความคึกคัก
และกะว่ากินเสร็จ เมาแล้วฉันจะไม่ไปไหน
ก็เลือกพักแถวนี้ก็ได้ เพราะอยู่ใกล้ลานจตุรัสใจกลางเมือง
(Square Street, Square Market)
ดูทางเดินซะก่อน เดินขึ้นเขา พื้นก็สากด้วย
ดังนั้นควรเป็นเป้สะพายหลังจะดีกว่าค่ะ

ตัวอย่างที่พักแถวนี้ เช่น Si fang Yuan Inn (ป้ายสีดำตัวหนังสือทองขวามือ)
ไม่รู้ชื่อนี้มีกี่ที่ คุ้นๆ เหมือนเห็นชื้อนี้ตรงตำแหน่งอื่นในเมืองด้วย
เพราะตอนแรกกะจะพักที่ Si fang แต่ไม่รู้ใช่ที่นี่เปล่า
ดูไม่เหมือนกับที่คิดไว้ เลยไม่พักดีกว่า


Wang Gu Inn


Guest No.68 House ที่นี่ดูน่าเข้าดี เลยลองเดินเข้าไป
ถ่ายรูปมา และก็หยิบนามบัตรออกมาด้วย

นามบัตร Guest No.68 House ด้านหน้า-ด้านหลัง
(ขออนุญาตทำไฮไลท์สีชมพูขึ้นเองค่ะ เพราะบางที่ไม่มีชื่อภาษาอังกฤษบนนามบัตร)

= : = : = : = : = : = : = : = : = : = : = : = : = : = : = : =

ต่อไปขอพาไปดูที่พักทางฝั่งทิศใต้แถว Crowne Plaza
ซึ่งอยู่ใกล้กับประตูทิศใต้ของเมืองเก่าลี่เจียง
(จริงๆ ก็คงไม่ใกล้เท่าไหร่ แต่ว่าเป็นระยะทางพอเดินไปได้)
ที่พักแรกสุดที่อยู่ติดถนนใหญ่ (Xiang He Road)
คือ Crowne Plaza 


ซึ่งกินพื้นที่ใหญ่มาก สามารถใช้เป็นจุดนัดพบได้เลย
ที่นี่ดูแล้วเหมือนเป็นที่พักของขุนนาง หรือชนชั้นสูงสมัยก่อนเลย
เพราะประกอบไปด้วยบ้านหลังเล็กๆ หลายหลัง ภายใต้รั้วเดียวกัน 
แต่อันนี้ก็ไม่รู้ว่าเพิ่งสร้าง หรือมีมานานแล้วและได้รับการปรับปรุง
เพราะดูน่าพักมาก และก็คงแพงน่าดู

เดินไล่ขึ้นมาเรื่อยๆ ก็มีที่พักแบบบ้านจีนโบราณมากมาย
ก็เพราะที่นี่เป็นลี่เจียงกู่เฉิง ที่ตัวบ้านจะเป็นลักษณะล้อมรอบที่ตรงกลางเอาไว้
แล้วที่ตรงกลางนั้นก็จะเปิดโล่ง มักตกแต่งด้วยต้นไม้
หรือมีโต๊ะเก้าอี้เพื่อให้แขกนั่งพักผ่อน นั่งเล่นชิวๆ

เช่น Cai Yun Li Shui Inn


Feet Home

Home Spring & Autumn Inn


Lidaoyuan Inn


Shelter Inn


Yi Ran House

นามบัตร Yi Ran House




Old Town Garden Resort


นามบัตร Old Town Garden Resort


และที่สุดท้ายที่ฮาสุดๆ .... ที่อยากจะนำเสนอ
Dream Land
แว้บแรกที่เห็นคือ สวนสวยกับเก้าอี้ชิงช้าน่านั่ง
สักพักก็มีน้องหมาตัวสีน้ำตาลเดินออกมาทักทาย
ยังชี้ให้พ่อดู หมาน่ารักดี ดูแสนรู้ และขนสวยเชียว
แต่สงสัยแสดงออกว่าชอบมากไปหน่อย หรือเขาฟังไทยออกก็ไม่รู้
คงนึกว่าเราเป็นคนเลี้ยงหมา ชอบหมา 555
เค้าเลยปล่อยเจ้าขนปุยสีขาวเทาตัวนี้ออกมาด้วย

เห็นในรูปอย่างงี้ดูน่ารักๆ ใช่มั้ย แต่ของจริง ตัวใหญ่มาก
ขนาดยืนสี่ขาก็ประมาณเอวได้ หมาหรือม้าก็ไม่รู้ น่าจะขึ้นไปนั่งได้เลยนะเนี่ย

พอเจ้าตัวนี้วิ่งเข้ามาทักทายอย่างน่ารัก เดินไปไหนก็วิ่งตามไปด้วย
ถ้าใครเลี้ยงหมา ต้องชอบแน่ๆ เลย และคงอยากพักที่นี่ 
แต่คนไม่เคยเลี้ยงอย่างเรา ก็เลยต้องแอบหลังพ่อใหญ่เลย 555
สังเกตมืออันสงบเสงี่ยมนั้น ก็พ่อเราเอง แอบกลัวเหมือนกัน อิอิ
และทำให้ตัดสินใจง่ายขึ้นว่า อีกคืนนึง เราพักที่เดิมแหละ ดีละ
ไม่ต้องย้ายที่หรอก แล้วก็รีบลาออกมาเลย
อ้อ ถ้าใครชอบน้องหมา อยากพักที่นี่ อาจต้องโทรจองก่อนนะ
เพราะตอนที่เข้าไปถาม ก็รู้สึกว่าห้องเกือบๆ เต็มเหมือนกัน ขนาดไม่ใช่ช่วงเทศกาล
ที่นี่มีเว็บไซต์ด้วย ท่าทางจะพูดอังกฤษได้ เพราะเจ้าของดูเด็กๆ อยู่เลย

นามบัตร Dream Land
ตอนแรกก็ไม่ได้จดชื่อมาหรอก
แต่พอเห็นน้องหมาเท่านั้น นึกชื่อขึ้นได้เลย 555
หมาตัวใหญ่มาก ต้องที่นี่เท่านั้น Dream Land
น่าจะเป็นจุดขายสำหรับที่นี่
แต่ไม่ใช่สำหรับเรา
ปล. แต่น้องหมาน่ารักดีนะ ถ้ามันตัวเล็กกว่านี้หน่อยอะนะ

ที่เก็บภาพมาก็มีแค่นี้แหละค่ะ 
แต่จริงๆ มีที่พักอีกมากมายที่ไม่ได้ถ่ายมา
สรุปที่พักด้านหลังฝั่งประตูทิศใต้นี้ คนไม่พลุกพล่านมาก
เหมาะกับการนั่งเล่นชิวๆ มากมาย

ส่วนการเดินทางมาแหล่ง Guest House ทางด้านใต้ แถว Crowne Plaza
ที่อยู๋ละแวกประตูทางทิศใต้ของเมืองเก่า
สามารถมาทางถนนใหญ่ Xiang He Road ได้
แต่พอถึง Crowne Plaza รถสาธารณะจะเข้าไม่ได้
เข้าได้แต่รถส่วนตัวของเจ้าของที่พักสามารถเข้าไปได้ช่วงหนึ่ง
หรือจะใช้วิธีเดินมาจากประตูทางทิศเหนือก็สามารถทำได้
แต่คงเหนื่อยน่าดูถ้ามีกระเป๋ามาด้วย !!!
เพราะฉะนั้นถ้าจะพักแถวนี้ครั้งแรกมาทางรถผ่านถนน Xiang He ดีกว่าค่ะ
เก็บของ แล้วค่อยเดินเล่นสบายๆ ไปทั่วเมืองเก่าได้


แต่ขอบอกการเดินทางจากทางทิศเหนือกังหันน้ำ
มาที่ทิศใต้ Guest House แถวย่าน Crowne Plaza แล้วกันนะคะ
คือ ถ้าเดินมาจากกังหันน้ำประตูทางทิศเหนือ เมื่อผ่านย่าน Square Street มาแล้ว
(ตรง Square Street จะมีแยกมากมาย)
ถ้าเจอรูปตามภาพ A  แล้วให้เดินต่อไปอีก ซอยจะแคบลง
สองข้างทางจะเป็นร้านค้า มุ่งหน้าลงใต้ต่อไป สังเกตด้านขวามือ
จะมีร้านขายเครื่องเงินตามชื่อภาษาจีนที่เห็นในภาพ B (ข้อมูลตอนเดือนเมษา'54)
ติดกับร้านขายเครื่องเงินจะมีซอยเล็กๆ ให้เดินเข้าไป


พอเข้าซอยเล็กๆ มาแล้ว เดินพ้นออกมาก็จะมาโผล่ตามรูปที่ 1
เดินต่อไปเรื่อยๆ จะเจอรูปที่ 2
เดินต่อไปอีกซ้ายมือเป็นรูปที่ 3 ขวามือเป็นรูป 4
ประมาณนี้ค่ะ เท่าที่จำได้ เวลาผ่านไปความจำก็เริ่มเลือน 555
ต้องขออภัยหากมีข้อผิดพลาด แต่คิดว่าไม่น่าผิดนะ

ยังไงครั้งแรกที่ไปถึง ก็ควรโทรให้จนท.ของที่พักมารับเราจะดีกว่า
และก็ขอแผนที่ หรือนามบัตรจากเขาไว้ กันหลง
เพราะร้านค้าจะหน้าตาละม้ายคล้ายกันหมด
แต่ถ้าได้ลองเดินเล่นสักรอบ สองรอบในเมืองเก่า ก็จะจำทางได้แล้วค่ะ



ท้ายสุดขอบ่นและโฆษณา Link ที่ทำไว้หน่อย... 
ที่พักแบบบ้านโบราณนี้เคยจะหาพักในปักกิ่งแทบจะพลิกแผ่นดินหา
เพื่อจะให้ได้ทำเลใกล้รถไฟฟ้า ไม่ต้องเดินไกล และราคาไม่แพงเกินไป 
แต่สุดท้ายก็ต้องตัดใจ เพราะถึงหาเจอก็ไม่ใกล้รถไฟฟ้าบ้าง ราคาแพงเกินไปบ้าง 
สุดท้ายเลยมาพักแบบสบายๆ สไตล์โมเดิร์น ที่ Orange Hotel ปักกิ่ง แทน 
ถ้าใครจะไปปักกิ่งลองตาม Link ไปดูรูปได้นะคะ