วันศุกร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2554

จาก Lijiang สู่ช่องแคบเสือกระโจน @ Qiaotou


การเดินทางจากลี่เจียง (Lijiang) ไปช่องแคบเสือกระโจน
เราเลือกแบบไปลงที่เมืองเฉียวโถว (Qiaotou)



หลังจากผิดหวังจากอาเจ๊คนขับรถเช่า ที่คุณหวงลี่ฮัวแนะนำมา (คนขับรถเช่าที่ในพันทิพแนะนำกัน)
เนื่องจากตัวคุณหวงลี่ฮัว เองบอกว่าคิวไม่ว่าง
วันต่อมาเลยตัดสินใจเช่ารถใหม่กับคุณเหอ ลี่ เฉียน 
(หาดูเพิ่มเติมได้จากหนังสือยูนนาน ของพี่วุฒิ-เคท)
 หรือโทร 135-0888-5067 และ 139-8888-5403 (ข้อมูล ณ ปี 2011)
คุณเหอ อัธยาศัย ดีมาก อาสาพาเรามาซื้อตั๋วไปเฉียวโถวที่สถานีขนส่งด้วย
ตามรูปข้างบน เป็นรูปสถานีขนส่ง ถ่ายมาจากโมเดล



นามบัตรด้านหน้า และหลังของสถานีขนส่งแห่งนี้
ถ้าพักใกล้ประตูทางใต้ของลี่เจียงกู่เฉิง ทางออก Crowne plaza Hotel
ก็สามารถไปถึงสถานีขนส่งโดยแท็กซี่ ใช้เวลาแป๊บเดียว


เราถามหารถแบบ VIP แต่คนขายตั๋วบอกไม่มี มีแต่รถธรรมดา
ซึ่งมีที่นั่งแถวละ 3 คน ฝั่งซ้าย 2 คน ฝั่งขวา 1 คน
และก็เป็นรถแบบต้องเปิดกระจกรับลม
ที่แย่หน่อยคือ ไม่มีที่ใส่กระเป๋าเดินทางข้างรถ
ต้องแบกกระเป๋าขึ้นไปไว้บนรถด้วย
ช่องเก็บกระเป๋าเหนือศีรษะก็แคบไปหน่อย ใส่ได้แต่เป้ใบเล็กๆ
ถ้าเป้แบบที่ชาว Backpacker ใช้กันก็น่าจะยัดเข้าไปไม่ได้เหมือนกัน


รูปบัตรโดยสารจากลี่เจียงไปเฉียวโถว รถออก 8:30
ค่าโดยสารคนละ 16 Y รวมค่าประกันอีกคนละ 3 Y
ทั้งหมดก็ 76 Y แต่หน้าตั๋วที่เห็นคือ 64 Y และมีแม๊กรวมบัตรประกันด้านหลังอีก
พอใกล้เวลารถออก โชคดีที่เราไปถึงเร็วหน่อยเลยมีที่วางกระเป๋าตรงทางเดิน
และนึกว่าคนไม่เต็ม ที่ไหนได้สักพักนึง คนขึ้นมาเต็มรถเลย
พอคนครบ คนขับก็ออกรถเลย

พอรถออกไปได้สักพัก ถึงได้รู้ว่า รถคันนี้เหมือนรถรับจ้างส่วนตัวเลย
เพราะได้ยินผู้หญิงที่มากับคนขับ คุยกับกลุ่มสูงวัยด้านหลัง
สรุปความได้ว่า เดี๋ยวรถคันนี้จะไปส่งถึงข้างในช่องแคบเสือกระโจน
แล้วก็พานั่งรถออกมากินข้าว ก่อนจะพากลุ่มนี้กลับลี่เจียง
โดยจะคิดค่าโดยสารเพิ่มเท่าไหร่ไม่แน่ใจ

พวกเราก็เลยสนใจว่าจะติดรถไปข้างในช่องแคบฯ ด้วย
และค่อยหารถไปแชงกรีล่าอีกที เขาคิดอีกคนละ 23 Y ซึ่งเราว่าแพงเหมือนกัน
แต่พ่อเราก็ฟังสำเนียงจีนกลางของเค้าไม่ค่อยเข้าใจ
ก็เลยขี้เกียจต่อรองมาก รวม 4 คนเขาคิด 90 Y
พอรวมกับค่ารถลี่เจียงมาเฉียวโถวแล้ว
ก็ยังถูกกว่าที่คุณเหอเสนอมา 200 Y ก็เลยเอาตามนี้


พอมาถึงทางเข้า ก็มีคนขึ้นมาเก็บตั๋วค่าเข้าช่องแคบฯ คนละ 50 Y
พอยื่นบัตรนศ.ให้ดู เขาก็บอกว่าลดไม่ได้ ประมาณอายุเกินแล้ว
แต่เราอ่านเจอมาว่าปีเกิดเรายังไม่เกิน ก็เลยลองยื่นดู
ทีนี้พอบัตรใช้ไม่ได้ เลยรู้อายุเราหมดเลย เพราะที่นี่เขาคุยกันเสียงดังน่าดู
อุตส่าห์แอ๊บแบ๊ว ทำหน้าเด็ก มาตั้งนาน อิอิ
ส่วนพ่ออายุ 60 กว่าก็ลดไม่ได้อีก
เขาบอกว่าต้องมีบัตรปชช.ของจีน ประมาณนั้น
สรุปลดไม่ได้เลยสักคน เซ็งเลย


พอถึงที่ ก็ให้เวลาเดินประมาณชั่วโมงนึงถึงชั่วโมงครึ่ง ทางเข้าเสือกระโจนฝั่งนี้
เป็นแบบบันไดหลายร้อยขั้น เป็นฝั่งที่เราอยากจะมาตั้งแต่แรก
เพราะใช้เวลาเดินไปกลับไม่มาก (เห็นเขาเรียกทางเข้าฝั่งนี้ว่า ฝั่งแชงกรีล่า)
อีกฝั่งนึงเป็นทางเดินทอดยาวไกล บันไดไม่มาก (ฝั่งลี่เจียง)

รูปนี้เป็นรูปทางเดินฝั่งโน้น แต่ถ่ายจากฝั่งบันไดที่เรายืนอยู่ฝั่งนี้


ตอนลงนี่พวกเราลงอย่างเร็ว นำหน้ากลุ่มสูงวัยที่นั่งรถมาด้วยกัน
แต่ตอนขึ้นนี่กลับตรงกันข้าม เพราะกลุ่มสูงวัยถึงรถก่อน
โดยเห็นพักแค่ครั้งเดียว ตอนเข้าห้องน้ำที่อยู่ด้านบนสุดก่อนขึ้นรถ
อาจจะเป็นเพราะเราดันไปเผลอวิ่งดักหน้า เพื่อจะมาถ่ายรูปข้างล่างนี้ให้ทัน

หลังจากนั้นก็เหนื่อยไม่หายเลย หอบ และต้องพักตลอดทาง
แต่จริงๆ ถึงไม่ได้จะมาถ่ายรูปนี้ให้ทัน ก็คงเหนื่อยหอบอยู่ดี
เพราะที่นี่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลมากเหมือนกัน อากาศจึงเบาบาง
แต่ทำไมคนจีนสูงวัยกลุ่มนั้น ถึงเดินเก่งจังหว่า


หลังจากชมความยิ่งใหญ่ของช่องแคบเสือกระโจนเสร็จ
รถคันเดิมก็ออกมาส่งตรงร้านกินข้าว ผู้หญิงที่มากับคนขับก็บอกว่า
เดี๋ยวจะพาไปกินข้าวกลางวัน ข้าวผัด หมี่ผัด ประมาณนี้ ชามละ 5-6 Y
เราก็นึกในใจ ว่าจริงหรอ!! เพราะที่อ่านมาเขาบอกว่ากินข้าวที่เมืองเฉียวโถว
แถบช่องแคบฯ แถวนี้ มันแพงมากนี่หน่า



รูปร้านอาหารละแวกนี้ มีหลายร้าน
แต่เจ๊ที่มากับคนขับพาเข้าร้านขวาสุด (ถ้าหันหน้าเข้า)
เราเห็นเขาสั่งกับข้าวเป็นอย่างๆ มากินกัน แต่พวกเรากลัวกินไม่หมด
เลยสั่งข้าวผัดหมูใส่ผักแบบง่ายๆ มา 3 จาน
แล้วกลัวติดคอก็เลยสั่งน้ำแกงมาเพิ่ม

อาหารมาแล้ว หน้าตาก็ดูจืดๆ ไม่ค่อยหน้ากินแบบในรูปนี้เลย
กว่าจะสั่งมาได้แบบนี้ เล่นเอาเมื่อยเลย
รสชาดข้าวผัดพอใช้ได้ แต่น้ำแกงนี่ชามใหญ่มาก มาเป็นโถ
และก็จืดมากเช่นกัน เลยขอพริกเขามาแกล้มหน่อย

แต่เห็นอย่างนี้ก็กินข้าวผัดหมดนะ เพราะหิวและเหนื่อย
แต่น้ำแกงเหลือเต็มเลย

ระหว่างนี้ คนขับรถเช่าที่เราตกลงไว้ก็มาถึง พอดีเขารับคนมาจากแชงกรีล่า
มาต่อรถที่เฉียวโถว เพื่อจะไปลี่เจียง
รถที่พวกนั้นจะไปต่อก็คือรถคันที่เรานั่งมาจากลี่เจียงนั่นแหละ
ส่วนเราก็จะนั่งรถตู้ขนาดเล็กคันนี้จากเฉียวโถวไปแชงกรีล่าต่อไป

ระหว่างกินข้าวอยู่ เขาก็เรียกให้พวกเราย้ายกระเป๋าไปใส่รถตู้คันใหม่
แล้วก่อนที่เราจะกินกันเสร็จ พวกคนขับรถ พร้อมผู้หญิงที่มาด้วยกับคนขับ
และก็กลุ่มสูงวัยที่จะกลับลี่เจียง ก็กินกันเสร็จแล้วสั่งเช็คบิลไปกันเรียบร้อยแล้ว

พอพวกเราเช็คบิลบ้าง ก็ต้องตกกะใจกับราคา
จำราคาได้แม่น ไม่ต้องเปิดโพยช่วยจำเลย
ข้าวผัด 3 จานรวม 45 Y น้ำแกงที่เห็นชามนั้นชามเดียว 45 Y
เราก็ทำเป็นโวยวาย ว่าทำไมแพงจัง แต่ก็รู้ว่าคงไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไหร่
โดยบอกว่าเจ๊ที่มากับคนขับคันนั้น เขาบอกว่าข้าวผัดชามละ 5-6 Y เท่านั้น
แต่ตัวเจ๊ก็อันตรธาน หายไปซะแล้ว ก็เลยไม่รู้จะไปเรียกร้องกับใคร

แต่ก็ว่าแล้วเชียว ว่าเป็นไปไม่ได้ที่ราคาจะถูก
ราคาข้าวผัดน่ะไม่เท่าไหร่ แต่ไอ้ที่แพงเวอร์คือน้ำแกงอันจืดชามนั้น
มันจำขึ้นใจเลยทั้งหมดก็ 90 Y ประมาณ 450 บาทได้

หลังจากกินพออิ่ม แบบไม่เต็มใจจะจ่าย
พวกเราก็เดินทางต่อด้วยรถตู้ขนาดเล็กคันใหม่เอี่ยม เพื่อไปเยือนแชงกรีล่าต่อไป

ดูข้อมูลเกี่ยวกับรถเช่าไปแชงกรีล่าได้ที่
http://myhappyimage.blogspot.com/2011/04/rental-car-qiaotou-shangri-la.html


ไม่มีความคิดเห็น: